วันที่ 12 ธันวาคม 2566 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นองค์ประธานการประชุมคณะกรรมการมูลนิธิชัยพัฒนา ครั้งที่ 1/2566 โดยในปีนี้มูลนิธิชัยพัฒนาได้รับโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน จำนวน 22 แปลง คิดเป็นพื้นที่รวมประมาณ 167 ไร่ ตั้งอยู่ในพื้นที่ภาคเหนือ จำนวน 2 แปลง พื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออก จำนวน 2 แปลง และพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 18 แปลง รวมกรรมสิทธิ์ที่ดินมูลนิธิชัยพัฒนาทั่วประเทศทั้งสิ้น 60 จังหวัด จำนวน 641 แปลง เนื้อที่ประมาณ 10,692 ไร่
มูลนิธิชัยพัฒนาได้นำที่ดินไปพัฒนาให้เกิดประโยชน์ตามแนวพระราชดำริ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ปัจจุบันมีโครงการที่กำลังดำเนินการและใช้งบประมาณของมูลนิธิชัยพัฒนา 77 โครงการ ตั้งอยู่ในพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออก 36 โครงการ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 13 โครงการ ภาคเหนือ 21 โครงการ และภาคใต้ 7 โครงการ
โครงการของมูลนิธิชัยพัฒนา แบ่งเป็นการพัฒนาด้านต่างๆ อาทิ ด้านการเกษตร ด้านสังคมและวัฒนธรรม ด้านการศึกษา ด้านศาสนา ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านพลังงานทดแทน ด้านต่างประเทศ และด้านการให้ความช่วยเหลือต่างๆ โดยเน้นการพัฒนาตามหลักภูมิสังคมและความต้องการของท้องถิ่นเป็นสำคัญ รวมทั้งการสนับสนุนงานการศึกษาวิจัยที่จะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการถ่ายทอดและส่งเสริมให้เกษตรกรและชุมชนมีทางเลือกและโอกาสเพิ่มขึ้นในการประกอบอาชีพ
โครงการพัฒนาต่างๆ ของมูลนิธิชัยพัฒนามีวัตถุประสงค์ที่จะช่วยแก้ไขปัญหาและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น อันจะนำไปสู่เป้าหมายของการพัฒนาตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ความตอนหนึ่งว่า "ชัยชนะของประเทศนี้ โดยงานของมูลนิธิชัยพัฒนานั้นก็คือ ความสงบ ... เป็นเมืองไทยที่จะมีความเจริญก้าวหน้า จนเป็นชัยชนะของการพัฒนาตามที่ได้ตั้งชื่อ มูลนิธิชัยพัฒนา ชัยของการพัฒนานี้มีจุดประสงค์คือ ความสงบ ความเจริญ ความอยู่ดีกินดี"