- หน้าแรก
- สาระน่ารู้ในโครงการพระราชดำริ
- เรื่องน่าสนใจในโครงการพระราชดำริ
- บรรยากาศในงาน อัมพวา ชัยพัฒนานุรักษ์ 2-5 พฤษภาคม 2551
บรรยากาศในงาน อัมพวา ชัยพัฒนานุรักษ์ 2-5 พฤษภาคม 2551
บรรยากาศภายในงานอัมพวา ชัยพัฒนานุรักษ์ เต็มไปด้วยกลิ่นไอของความเป็นไทยในชุมชนอัมพวาแบบดั้งเดิม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงวิถีการดำเนินชีวิตของชาวบ้านที่มีกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ โดยเฉพาะบรรกาศสองฝั่งคลองอัมพวาที่มีชื่อเสียงในเรื่องตลาดน้ำยามเย็น เต็มไปด้วยผู้คนที่มาจับจ่ายใช้สอยและท่องเที่ยวเพื่อซึมซับถึงบรรยากาศความเป็นไทยที่ยังคงได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีเยี่ยม
ไม่เพียงแต่คนไทยที่หลั่งไหลมาจากกรุงเทพมหานครและจังหวัดใกล้เคียงเท่านั้นที่ชื่นชอบอัมพวา ช่าวต่างชาติเป็นจำนวนมากที่ไม่เคยเห็นภาพตลาดน้ำยามเย็น ความเป็นกันเอง และมีน้ำใจของคนไทย ต่างพากันถ่ายรูปกันเป็นการใหญ่และซื้อของติดไม้ติดมือกันเป็นจำนวนมาก
เช้าวันศุกร์ที่ 2 พฤษภาคม 2551 บริเวณงาน ณ ลานวัฒนธรรม นาคะวะรังค์ เป็นการสาธิตการทำผลิตภัณฑ์ชุมชน และเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ชุมชน ซึ่งมีร้านค้ามาเปิดร้านให้ได้เลือกซื้อกันเป็นจำนวนมาก จากนั้นเวลาประมาณ 14.00 น.ขบวนกองยาวก็ได้เคลื่อนที่จากหน้าที่ทำการเทศบาลอัมพวามายังลานวัฒนธรรมนาคะวะรังค์ ซึ่งตลอดระยะทางที่ขบวนกองยาวเคลื่อนผ่านนั้น
เต็มไปด้วยการขับร้องเพลงพื้นบ้าน และการฟ้อนรำของผู้คนในขบวนซึ่งสร้างความสนุกสนานและเป็นที่น่าสนใจของผู้คนตลอดสองข้างทางเป็นอย่างยิ่ง และเมื่อขวนมาถึงพื้นที่โคงการ ณ หน้าร้าน ชานชาลา ดร. สุเมธ ตันติเวชกุล กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ได้เข้ามารับขบวนด้วยตัวเองและเข้าร่วมในขบวนเพื่อนำไปสู่ ลานวัฒนธรรมนาคะวะรังค์ ทันที่ที่ขบวนถึงลานวัฒนธรรมนาคะวะรังค์ผู้คนที่เตรียมตัวต้อนรับก็โห่ร้องและร้องเพลงพื้นบ้านกันอย่างสนุกสนาน และแล้วพิธีเปิดโครงการอัมพวา ชัยพัฒนานุรักษ์ ก็ได้เริ่มขึ้นโดยมี ดร. สุเมธ ตันติเวชกุล กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา เป็นประธานในพิธี
จากนั้นก็เป็นการปาฐกถา เรื่อง " ภูมิสังคมอัมพวากับการดำเนินชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง " โดย ดร. สุเมธ ตันติเวชกุล กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ณ ลานวัฒนธรรมนาคะวะรังค์ ซึ่งมีผู้ใหญ่ในขุมขนประชาชนเข้ารับฟังเป็นจำนวนมาก ต่อจากนั้นเป็นการนำชมระบบนิเวศน์สวนผลไม้อัมพวา ชมการแสดงขับบทกวีชมสวนอัมพวา และการละเล่นพื้นบ้านของเด็กไทย โดยกลุ่มเยาวชน ณ สวนสาธิตการเกษตรของมูลนิธิชัยพัฒนา ชมนิทรรศการวิถีชีวิตชาวอัมพวา ณ ห้องนิทรรศการเรือนแถวไม้ริมคลองอัมพวา
และในขณะเดียวกันในบริเวณสองฝั่งคลองเต็มไปด้วยแขกผู้มีเกียรติเลือกซื้อของว่าง อาหาร และขนมจากเรือ เพื่อร่วมรับประทานและพักผ่อนอิริยาบถที่ร้านชานชาลา (ห้องแถวไม้ริมคลองของมูลนิธิชัยพัฒนา) พร้อมกับชมการบรรเลงดนตรีไทยสองฝั่งคลองอัมพวา โดย กลุ่มดนตรีไทยเยาวชน ณ เรือนแถวไม้ริมคลองของมูลนิธิชัยพัฒนา
และไม่นานนักคลองอัมพวาก็เต็มไปด้วยเสียงปรบมือและเสียงร้องของผู้คนเมื่อ บุญโทน คนหนุ่ม นักแหล่ชื่อดังได้ให้เกียรติมาขับร้องเพลงแหล่ในงาน สร้างความสนุกสนานเป็นอย่างมาก และยิ่งเป็นที่สนใจของประชาชนสองฝั่งคลองอัมพวาก็คือ
ผู้ว่าราขการจังหวัดสุมทรสงครามได้ให้เกียรติร่วมงานโดยการพายเรือมาด้วยตนเองในบทบาทของพ่อค้าขายกาแฟโบราณ ซึ่งได้รับเสียงปรบมืออย่างคับคั่งและมีประชาชนให้การอุดหนุนกันเป็นจำนวนมาก งานดำเนินมาจนถึงข่วงเย็นเป็นการขับร้องเพลงเรือ เพลงพวงมาลัย และเพลงแหล่ประจำจังหวัด จากปากคลอง อัมพวาถึงหน้าโครงการอัมพวา ชัยพัฒนานุรักษ์ มูลนิธิชัยพัฒนา
โดยดร. สุเมธ ตันติเวชกุล กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ได้ให้เกียรติลงเรือเพื่อชมบรรยากาศสองฝั่งคลอง งานดำเนินมาถึงช่วงค่ำเป็นการบรรเลงดนตรีไทย ของวงไทยบรรเลง ณ ลานวัฒนธรรมนาคะวะรังค์ และสุดท้ายก็เป็นการชมการฉายหนังกลางคลองเพื่อย้อนรำลึกถึงบรรยากาศเก่าๆของคลองอัมพวา เป็นการเสร็จสิ้นงานอัมพวา ชัยพัฒนานุรักษ์ ในวันแรกได้อย่างสมบูรณ์แบบ
จากนั้นงานในวันที่ 3 จนกระทั่งถึงวันที่ 5 พฤษภาคม 2551 ก็เต็มไปด้วยด้วยกิจกรรมต่างๆที่ได้เตรียมไว้มากมาย โดยมีประชาชนให้ความสนใจเข้าร่วมงานกันเป็นจำนวนมากและไม่ขาดสาย
สวนสาธิตการเกษตรเพื่อการเรียนรู้ เป็นการจัดพื้นที่สวนผลไม้ เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ถึงภูมิปัญญา
และวิถีชีวิตท้องถิ่นอัมพวาในด้านการเกษตร โดยเฉพาะไม้ผลซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของอัมพวา ทั้งยังเป็นแหล่งแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างนักวิชาการเกษตร เกษตรกรชาวสวน และผู้สนใจ
ร้านค้าชุมชน อยู่ริมถนนประชาอุทิศ ใกล้สวนสาธิตการเกษตร จัดเป็นร้านค้าให้ชุมชนต่างๆ
ในเขตเทศบาลตำบลอัมพวาเช่าพื้นที่เพื่อจำหน่าย หรือจัดแสดงสินค้า เพื่อให้ชุมชนอัมพวาได้เข้ามามีส่วนร่วม
ในการดำเนินงานและสร้างรายได้ให้ชาวอัมพวา
ลานวัฒนธรรม นาคะวะรังคเป็นลานเอนกประสงค์สำหรับการแสดงและกิจกรรมส่งเสริมวัฒนธรรมท้องถิ่นวิถีชีวิตลุ่มน้ำแม่กลองและอัมพวาซึ่งจะมีการจัดกิจกรรมต่างๆ เหล่านี้ หมุนเวียนปีละ ๓ ครั้ง ในช่วงเดือนเมษายน สิงหาคม และธันวาคม
สำหรับเดือนเมษายน ๒๕๕๑ จะเป็นการจัดงานอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นอัมพวา เพื่อเล่าเรื่องราวความเป็นมา
รูปแบบวิถีชีวิต และวัฒนธรรมพื้นบ้านของชุมชนอัมพวา กิจกรรมทางวัฒนธรรมและกิจกรรมสันทนาการต่างๆ
ได้แก่ การเสวนาเชิงวิชาการเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ชุมชน วิถีชีวิต และวัฒนธรรมชาวอัมพวาและชุมชนในลุ่มน้ำแม่กลอง การประชันดนตรีไทย การฉายภาพยนตร์กลางคลอง และการจำหน่ายสินค้าท้องถิ่นของอัมพวา เป็นต้น
สำหรับการตั้งชื่อลานวัฒนธรรมแห่งนี้ว่า "นาคะวะรังค์" นั้น เพื่อเป็นเกียรติแก่คุณประยงค์ นาคะวะรังค์ ผู้น้อมเกล้าฯ ถวายที่ดินที่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ชาวอัมพวา ชุมชนอัมพวา และชาวไทยที่รักวิถีชีวิตแห่งความเป็นไทย ร้านกาแฟโบราณ "ชานชาลา" เป็นร้านจำหน่ายกาแฟ เครื่องดื่ม และอาหารพื้นบ้าน
มีการหมุนเวียนอาหารที่มีรสชาติดีและเป็นฝีมือของชาวอัมพวามาจำหน่าย มีมุมจำหน่ายของที่ระลึกของโครงการผลิตภัณฑ์ของมูลนิธิชัยพัฒนาและผลิตภัณฑ์ของท้องถิ่น
รวมทั้งเป็นศูนย์กลางในการเผยแพร่กิจกรรมภายในโครงการข้อมูลแหล่งท่องเที่ยว และกิจกรรมต่างๆ ของชุมชนอัมพวา ซึ่งได้ตกแต่งร้านให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คือ มีลักษณะเหมือนชานชาลาสถานีรถไฟสายแม่กลอง ซึ่งเป็นเส้นทางเดินรถเก่าแก่ที่ยังคงวิ่งผ่านกลางตลาดแม่กลอง ก่อนที่จะไปสิ้นสุดทางที่แม่น้ำแม่กลอง "ร้านชานชาลา" จึงนำแนวคิดนี้มาใช้เทียบเคียงว่าร้านแห่งนี้ เป็นที่สิ้นสุดเส้นทางณ คลองอัมพวา
ห้องนิทรรศการชุมชน เป็นพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการและกิจกรรมเกี่ยวกับวัฒนธรรม และวิถีชีวิตชุมชนแม่กลองและอัมพวา มีการจัดรูปแบบและเนื้อหาของนิทรรศการให้หมุนเวียนและสอดคล้องกับเนื้อหาการจัดกิจกรรมส่งเสริมวัฒนธรรมท้องถิ่น
โดยให้ความสำคัญกับการให้ความรู้ และความเข้าใจเกี่ยวกับวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชุมชนอัมพวา เพื่อสร้างความภาคภูมิใจให้แก่ชุมชน ส่งเสริม เผยแพร่และประชาสัมพันธ์ความรู้ ภูมิปัญญา และผลิตภัณฑ์ของชุมชนและท้องถิ่น